ปรับปรุง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ” ) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และที่เป็นนิติบุคคล (ซึ่งต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่าท่าน) รวมถึง ผู้รับมอบอำนาจ ผู้ปฏิบัติงาน และพนักงานของท่าน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งมีใจความสำคัญโดยสังเขป ดังนี้
นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันหมายความถึงข้อมูลของบุคคลธรรมดาเท่านั้น เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ (อีเมล-เบอร์โทรศัพท์) ข้อมูลบัญชีธนาคารและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา แต่ไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลนิติบุคคลและผู้ที่เสียชีวิต
2. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังต่อไปนี้
“คู่ค้า” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงบุคคลคนเดียวหรือหลายคนซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหรือได้รับมอบหมาย
ให้กระทำการแทนนิติบุคคล เพื่อเข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ บริษัทฯ ในฐานะ คู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ผู้ขายสินค้า ผู้ซื้อ
ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง ผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าสถานที่ และให้รวมถึงบริวารหรือบุคคลที่คู่ค้าได้มอบหมายให้ติดต่อกับบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์แห่งสัญญา หรือเกี่ยวเนื่องกับการทำสัญญาทางธุรกิจนั้น ๆ
3. วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจดำเนินการเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทฯ มีเหตุผล ที่เหมาะสมในการดำเนินการ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอก โดยบริษัทฯ อาศัยฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ข้อที่ | วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
(1) | เพื่อนำมาพัฒนาการให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดส่งพัสดุและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ การให้ความช่วยเหลือ และการดำเนินการตามข้อร้องเรียนของท่านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
|
(2) | เพื่อประโยชน์ในการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาสินค้า การให้บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของบริษัทฯ รวมถึงเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับสินค้า และบริการของบริษัทฯ เพื่อให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของท่าน |
|
(3) | เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใด ๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
|
(4) | เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานภายใน บริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานบัญชีการเงินของบริษัทฯ |
|
(5) | เพื่อนำมาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของบริษัทฯ เพื่อให้ท่านได้รับบริการ จากบริษัทฯ อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว และสะดวกสบายที่สุด |
|
(6) | เพื่อนำมาพัฒนานโยบายและประสิทธิภาพทางการตลาด รวมทั้งจัดทำ วิเคราะห์ และปรับปรุงแผนการตลาดของบริษัทฯ |
|
(7) |
เพื่อนำมาพัฒนานโยบายและประสิทธิภาพทางการตลาด
เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น
|
|
(8) |
เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ บริษัทฯ เช่น
|
|
(9) | เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติหรือประเมินความเหมาะสมก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง การพิสูจน์และการยืนยันตัวตน และหรือการตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการลงนามข้อตกลงหรือสัญญาใด ๆ กับ บริษัทฯ การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติรูปแบบอื่น ๆ และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆ ของบริษัทฯ |
|
(10) | เพื่อระงับข้อพิพาทหรือข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับท่าน อันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ |
|
(11) | เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด และเพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการหรือองค์กร อื่นใด ซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือคำสั่งตำรวจ อัยการและศาล รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย |
|
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือ การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (ตามแต่กรณี)
นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่เรา ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทต้นสังกัดของท่าน พนักงาน เลขานุการหรือผู้ประสานงานแทนของท่าน หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ บริษัทฯ ขอให้ท่านดำเนินการปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอม
5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของจากท่านจากช่องทาง ดังนี้
ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลดังนี้
โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ รวมถึงจะดำเนินการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากไม่สามารถติดต่อเจ้าของข้อมูล ทางบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบอย่างช้าเมื่อสามารถติดต่อได้ในครั้งแรก เว้นแต่กรณีที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งเจ้าของข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
6. ประเภทบุคคลที่ บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Third Parties Data Transfer)
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 5 ข้างต้น บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯเป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล | รายละเอียด |
---|---|
การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ | เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานปลัดสำนักนายก กรมการกงสุล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น |
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของ บริษัทฯ | บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง ๆ เช่น คณะอนุกรรมการสรรหา คณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น |
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของ บริษัทฯ | บุคคลภายนอกที่ บริษัทฯ จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล บริษัทผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น |
พันธมิตรทางธุรกิจ | บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่ร่วมงานกับ บริษัทฯ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น หน่วยงานผู้ให้บริการที่ท่านติดต่อผ่านบริการของบริษัทฯ ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น |
ผู้ให้บริการ | บริษัทฯ อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น |
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น | บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อบริษัทฯ สมาชิกในครอบครัว มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ บริษัทฯ การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น |
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ | บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้ บริษัทฯ ต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี |
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ (Cross Border Data Transfer)
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของบริษัทฯ ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Data Retention)
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่ บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กร
9. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อีกทั้งยังอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่ บริษัทฯ กำหนด
ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ คือภายใน 30 วัน โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้มีหนังสือตอบรับคำร้องขอ)
9.1 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิเข้าถึง และได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ มีอยู่หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านอาจเห็นว่ามิได้ให้ความยินยอมไว้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
9.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
9.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
9.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายกำหนด อาทิ
9.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
9.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือ ใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
9.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอน และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิเพื่อตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่าง
9.8 สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่เห็นว่าบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ได้ผ่านช่องทาง การใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่างของเอกสาร
10. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
ทางบริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม
หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งทางบริษัทฯเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่าง
11. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการเข้าใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
12. การทบทวนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายฉบับนี้จะมีการทบทวนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการประกาศนโยบายฉบับปัจจุบันให้ท่านทราบผ่านช่องทาง www.nimexpress.com
13. ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าว
เมื่อกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ผ่านช่องทางที่ระบุดังนี้
ชื่อ : คณะทำงานข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด สาขาพระราม 9 เลขที่ 19/28-30 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
ช่องทางการติดต่อ : Call center 02-096-3333 หรือ 090-554-1988
Email : callcenter@nimexpress.com
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โทร. 061-675-5153, 061-675-5154
Email : pdpc@mdes.go.th